เอกชนเสนอ ก.ไอซีที แก้ไข กม.คอมพิวเตอร์ที่เป็นอุปสรรคทางธุรกิจ
กรุงเทพฯ 23 ก.ค.- ภาคเอกชนระบุกฎหมายคอมพิวเตอร์เป็นอุปสรรคต่อธุรกิจไอซีที เสนอกระทรวงไอซีทีออกกฎกระทรวงแก้ไขบางข้อ เพื่อลดต้นทุนผู้ประกอบการ พร้อมแก้ปัญหาถูกจับกุมจากการทำผิดโดยไม่ตั้งใจ ระบุมีคดีแล้ว 10 รายหลังกฎหมายประกาศใช้ 1 ปี
นายศรีศักดิ์ จามรมาน นายกสมาคมคอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมถ์ กล่าวในงานสัมมนา “วัดปรอดสังคมไทยหลังบังคับใช้กฎหมายคอมพิวเตอร์” ว่า หลัง พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์มีผลบังคับใช้ได้ 1 ปีนับตั้งแต่ 18 กรกฎาคม 2550 พบว่า เป็นอุปสรรคต่อภาคธุรกิจไอซีทีอย่างมาก จึงต้องระดมความเห็นพร้อมเสนอให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที ) แก้ไข โดยเฉพาะข้อกฎหมายที่กำหนดให้หน่วยงานต่าง ๆ ต้องมีระบบจัดเก็บข้อมูลการใช้บริการของลูกค้าไว้ 90 วัน ทำให้ธุรกิจซึ่งรวมถึงสถาบันการศึกษาที่เปิดให้บริการอินเทอร์เน็ตต้องลงทุนเพิ่มอุปกรณ์คอมพิวเตอร์สำหรับจัดเก็บข้อมูล จึงต้องลงทุนนับตั้งแต่ 1-10 ล้านบาท ถือเป็นภาระหนักที่ทำให้กิจการขนาดเล็ก โดยเฉพาะร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ อาจต้องปิดกิจการ เพราะไม่คุ้มค่ากับการลงทุน
นอกจากนี้ ความเข้มงวดของกฎหมายยังทำให้ผู้ประกอบการถูกจับกุมได้โดยง่ายจากความผิดที่ไม่ได้ทำหรือไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งเกิดขึ้นกับสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งมาแล้ว จากกรณีที่นักเรียนนำภาพลามกอนาจารไปติดตั้งในเครือข่ายคอมพิวเตอร์แล้วแจ้งตำรวจให้จับกุม ถือเป็นความผิดทางอาญาไม่สามารถยอมความได้ จึงเสนอให้แก้ไข เพื่อผ่อนปรนกฎเกณฑ์ดังกล่าวให้แก่บางหน่วยงาน อาทิ สถาบันการศึกษา หน่วยงานราชการ และห้างร้านที่ไม่มีเจตนากระทำผิด อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้มีคดีความตามความผิดของกฎหมายใหม่นี้แล้ว 10 คดี ที่อยู่ระหว่างดำเนินการตามกฎหมาย ด้านนายมั่น พัธโนทัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีที กล่าวว่า กระทรวงไอซีทียินดีที่ประกาศกฎกระทรวงเพื่อผ่อนคลายความเข้มงวดของกฎหมายบางมาตรการ โดยเฉพาะการทำผิดโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการมีโอกาสติดคุกได้โดยง่าย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินผลจากการประกาศใช้กฎหมายดังกล่าวได้ในขณะนี้ จึงต้องรออีกราว 4-5 เดือนน่าจะเห็นผลในทางปฏิบัติ
นายศรีศักดิ์ จามรมาน นายกสมาคมคอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมถ์ กล่าวในงานสัมมนา “วัดปรอดสังคมไทยหลังบังคับใช้กฎหมายคอมพิวเตอร์” ว่า หลัง พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์มีผลบังคับใช้ได้ 1 ปีนับตั้งแต่ 18 กรกฎาคม 2550 พบว่า เป็นอุปสรรคต่อภาคธุรกิจไอซีทีอย่างมาก จึงต้องระดมความเห็นพร้อมเสนอให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที ) แก้ไข โดยเฉพาะข้อกฎหมายที่กำหนดให้หน่วยงานต่าง ๆ ต้องมีระบบจัดเก็บข้อมูลการใช้บริการของลูกค้าไว้ 90 วัน ทำให้ธุรกิจซึ่งรวมถึงสถาบันการศึกษาที่เปิดให้บริการอินเทอร์เน็ตต้องลงทุนเพิ่มอุปกรณ์คอมพิวเตอร์สำหรับจัดเก็บข้อมูล จึงต้องลงทุนนับตั้งแต่ 1-10 ล้านบาท ถือเป็นภาระหนักที่ทำให้กิจการขนาดเล็ก โดยเฉพาะร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ อาจต้องปิดกิจการ เพราะไม่คุ้มค่ากับการลงทุน
นอกจากนี้ ความเข้มงวดของกฎหมายยังทำให้ผู้ประกอบการถูกจับกุมได้โดยง่ายจากความผิดที่ไม่ได้ทำหรือไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งเกิดขึ้นกับสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งมาแล้ว จากกรณีที่นักเรียนนำภาพลามกอนาจารไปติดตั้งในเครือข่ายคอมพิวเตอร์แล้วแจ้งตำรวจให้จับกุม ถือเป็นความผิดทางอาญาไม่สามารถยอมความได้ จึงเสนอให้แก้ไข เพื่อผ่อนปรนกฎเกณฑ์ดังกล่าวให้แก่บางหน่วยงาน อาทิ สถาบันการศึกษา หน่วยงานราชการ และห้างร้านที่ไม่มีเจตนากระทำผิด อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้มีคดีความตามความผิดของกฎหมายใหม่นี้แล้ว 10 คดี ที่อยู่ระหว่างดำเนินการตามกฎหมาย ด้านนายมั่น พัธโนทัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีที กล่าวว่า กระทรวงไอซีทียินดีที่ประกาศกฎกระทรวงเพื่อผ่อนคลายความเข้มงวดของกฎหมายบางมาตรการ โดยเฉพาะการทำผิดโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการมีโอกาสติดคุกได้โดยง่าย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินผลจากการประกาศใช้กฎหมายดังกล่าวได้ในขณะนี้ จึงต้องรออีกราว 4-5 เดือนน่าจะเห็นผลในทางปฏิบัติ
.-สำนักข่าวไทยอัพเดตเมื่อ 2008-07-23 19:49:54
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น